Privacy Policy TH

นโยบายความเป็นส่วนตัว

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ SkilThailand

SkilThailand ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคล การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล เพื่อให้ท่านเจ้าของข้อมูลเกิดความมั่นใจ ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทํานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ฉบับนี้ โดยมี รายละเอียดดังต่อไปนี้

1. ขอบเขตการบังคับใช้

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ ใช้บังคับกับบริษัทฯในเครือของ SkilThailand พนักงาน และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้คำสั่งในนามของ SkilThailand

2.คำนิยาม

2.1 SkilThailand หมายถึง บริษัทฯทั้งหมดในเครือของแสงชัย กรุ๊ป โดยจะเรียกแทนว่า “บริษัทฯ”
2.2 การประมวลผล หมายถึง การดําเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การเก็บ รวบรวม บันทึก จัดระบบ ทําโครงสร้าง เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง กู้คืน ใช้ เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน ผสมเข้าด้วยกัน ลบ ทําลาย เป็นต้น
2.3 ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของบุคคลได้ ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เลขบัตรประชาชน ที่อยู่ วันเกิด รูปถ่าย เชื้อชาติ ศาสนา ข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลทางชีวภาพ เป็นต้น
2.4 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลธรรมดาที่ข้อมูลส่วนบุคคลสามารถระบุตัวตนบุคคลนั้นได้
2.5 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ซึ่งมีอํานาจ หน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
2.6 ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งดําเนินการเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคําสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

3.วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

3.1 เพื่อใช้ในการดำเนินงานของบริษัทฯ เช่น การซื้อขายสินค้ากับลูกค้า คู่ค้า  ได้แก่

– ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น รูปภาพ ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน เป็นต้น
– ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น เชื้อชาติ เป็นต้น
– ข้อมูลการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่ทะเบียนบ้าน ข้อมูลการจัดส่ง เป็นต้น
– ข้อมูลการติดต่อทางโซเชียลมีเดีย เช่น ไลน์ไอดี บัญชีผู้ใช้ Facebook เป็นต้น
– ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน เช่น ข้อมูลเลขบัญชีธนาคาร เป็นต้น

3.2 เพื่อใช้ในกระบวนการบริหารทรัพยากรบุคคล เช่น การว่าจ้าง ทะเบียนประวัติพนักงาน การจัดการเพื่อการอบรมพัฒนาทักษะ การจ่ายค่าจ้างค่าตอบแทน งานด้านสวัสดิการ ระบบประเมินผลการปฏิบัติงาน การตรวจประวัติอาชญากรรม ประกันสังคม ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา  ได้แก่

– ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น อายุ เพศ สัญชาติ วันเดือนปีเกิด รูปภาพใบหน้า สถานภาพสมรส สถานภาพทางทหาร วุฒิการศึกษา เลขประจําตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน ข้อมูลในหนังสือเดินทาง ข้อมูลในใบอนุญาตขับขี่ ข้อมูลใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ บัตรต่างด้าว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ข้อมูลใบขับขี่ เป็นต้น
– ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น ข้อมูลสุขภาพ เชื้อชาติ ประวัติอาชญากรรม บัตรผู้พิการ เป็นต้น
– ข้อมูลการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่ทะเบียนบ้าน ข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้กรณีฉุกเฉิน เป็นต้น
– ข้อมูลการติดต่อทางโซเชียลมีเดีย เช่น ไลน์ไอดี บัญชีผู้ใช้ Facebook เป็นต้น
– ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน เช่น ข้อมูลเลขบัญชีธนาคาร รายได้ เป็นต้น

3.3 เพื่อใช้ในกิจกรรมโครงการต่างๆของบริษัทฯ เช่น กิจกรรมส่งเสริมการขายของบริษัทฯ กิจกรรมเพื่อการตลาด กิจกรรมตรวจสุขภาพ กิจกรรมงานเลี้ยงสังสรรค์ กิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กร กิจกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่

– ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น รูปภาพ ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน  เลขบัตรประชาชน ข้อมูลหนังสือเดินทาง เป็นต้น
– ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น ข้อมูลสุขภาพ เชื้อชาติ ศาสนา เป็นต้น
– ข้อมูลการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ที่อยู่ปัจจุบัน เป็นต้น
– ข้อมูลการติดต่อทางโซเชียลมีเดีย เช่น ไลน์ไอดี บัญชีผู้ใช้ Facebook เป็นต้น
– ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน เช่น ข้อมูลเลขบัญชีธนาคาร เป็นต้น
– ข้อมูลการร่วมกิจกรรม เช่น การบันทึกภาพนิ่ง เสียง และภาพเคลื่อนไหว เป็นต้น

3.4 เพื่อใช้ในกระบวนที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง เช่น การเข้าทําสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง สัญญาให้บริการหรือสัญญาอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ได้แก่

– ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล เลขประจําตัวประชาชน เป็นต้น
– ข้อมูลการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ที่อยู่จัดส่งสินค้า ที่อยู่สําหรับส่งใบแจ้งหนี้ เป็นต้น
– ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน เช่น ข้อมูลเลขบัญชีธนาคาร ประวัติทางการเงิน เป็นต้น

3.5 เพื่อการตรวจสอบดูแลความความสงบเรียบร้อยและป้องกัน หรือระงับเหตุการณ์ใดๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตร่างกายหรือสุขภาพ และทรัพย์สินของบุคคลหรือบริษัทฯ รวมถึงระบบการเข้าออกพื้นที่อาคารของบริษัทฯ ได้แก่

– ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล เลขประจําตัวประชาชน ทะเบียนรถ ข้อมูลในใบอนุญาตขับขี่ เป็นต้น
– ข้อมูลการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น
– ข้อมูลการบันทึกภาพ เช่น ภาพนิ่ง เสียง ภาพเคลื่อนไหว เป็นต้น

3.6 วัตถุประสงค์อื่นซึ่งทางบริษัทฯจะแจ้งให้ทราบและขอความยินยอมในการประมวลผลข้อมูล เว้นแต่เป็น กรณีที่เข้าข้อยกเว้นตามกฎหมายที่ไม่ต้องขอความยินยอม

4.การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่น

โดยการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่นนี้ บริษัทฯจะดําเนินการภายใต้ วัตถุประสงค์ที่กําหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกําหนดให้กระทําได้เท่านั้น โดยบริษัทฯจะควบคุมดูแลให้มี การรักษาข้อมูลที่มีการเปิดเผยดังกล่าวไว้เป็นความลับและนําไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้เท่านั้น บุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่นที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่

4.1 หน่วยงานภายในบริษัทฯที่มีความจำเป็นต้องทราบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
4.2 หน่วยงานราชการ หน่วยงานกํากับดูแลหรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ประกันสังคม กรมสรรพากร กระทรวงแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมศุลกากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานบังคับคดี เป็นต้น
4.3 หน่วยงานที่บริษัทฯว่าจ้างให้สนับสนุนเรื่องการทำงานของบริษัทฯ เช่น สำนักงานบัญชี บริษัทขนส่ง บริษัทคู่ค้า ผู้รับจ้าง บริษัทผู้รับเหมา ธนาคาร เป็นต้น

5.การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลสําหรับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

5.1 บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องโดยยึดหลักปฏิบัติตามกฎหมาย ด้วยความเป็นธรรม โปร่งใส และคํานึงถึงความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล โดยการกําหนดขอบเขตการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ให้ทําได้เท่าที่จําเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งบริษัทฯจะดําเนินการรักษาความลับความถูกต้องสมบูรณ์ และความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเต็มที่
5.2 บริษัทฯ จัดให้มีกระบวนการและการควบคุมเพื่อบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับกฎหมายและนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ
5.3 บริษัทฯ จะทําลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อครบกําหนดระยะเวลา โดยปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมายและแนวทางการดําเนินธุรกิจของบริษัทฯ
5.4 บริษัทฯ อาจจะมีการมอบหมายให้บุคคลหรือนิติบุคคล ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของบริษัทฯ บริษัทฯจะทำหน้าที่ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล โดยผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลตามคำสั่งของบริษัทฯเท่านั้น รวมถึงต้อง ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ในส่วนที่เกี่ยวกับหน้าที่ของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วย

6.การขอความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

6.1 กรณีที่กฎหมายกําหนดว่าต้องได้รับความยินยอมก่อนทําการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯจะดําเนินการขอความยินยอมโดยชัดแจ้งก่อนทําการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
6.2 กรณีที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ บริษัทฯจะดําเนินการตามที่กฎหมายกําหนดที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งรวมถึงการขอความยินยอมจากผู้ที่มีอํานาจกระทําการแทนตามที่กฎหมายกําหนด
6.3 กรณีที่ไม่ต้องขอความยินยอม บริษัทฯจะดําเนินการตามที่กฎหมายกําหนดไว้ซึ่งมีดังต่อไปนี้
6.3.1 กรณีข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
– เป็นการจําเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดําเนินการตามคําขอของท่านก่อนเข้าทําสัญญานั้น
– เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
– เพื่อเป็นการปฏิบัติตามที่กฎหมายกําหนด
6.3.2 กรณีข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
– เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือสุขภาพ ซึ่งไม่สามารถให้ความยินยอมได้ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม
– เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้ง
– เป็นการจําเป็นเพื่อสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
– เป็นการจําเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในเรื่องตามที่กฎหมายกําหนด
6.4 ในกรณีที่บริษัทฯทําการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา หรือเพื่อใช้ในการดําเนินการตามคําขอของท่านเพื่อเข้าทําสัญญา ซึ่งบริษัทฯต้องทําการประมวลผล หากไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯเพื่อวัตถุประสงค์ ดังกล่าวอาจมีผลกระทบทางกฎหมายหรือบริษัทฯอาจจะไม่สามารถดำเนินการตามสัญญา หรือไม่สามารถเข้าทําสัญญาได้ ในกรณีดังกล่าวบริษัทฯอาจมีความจําเป็นต้องยกเลิกการทำธุรกรรม สัญญาที่เกี่ยวข้อง

7.ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้โดยมีระยะเวลาเท่าที่จําเป็นต่อการดําเนินงานของบริษัทฯตามที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวมา หรือตามระยะเวลาตราบเท่าที่กฎหมายกําหนด

8.การจัดเก็บและใช้ข้อมูลคุกกี้ (Browser’s Cookies)

บริษัทฯเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกันในเว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของบริษัทฯ เช่น www.SkilThailand.com  หรือเว็บไซต์อื่นของบริษัทฯ ทั้งนี้เพื่อการดําเนินการด้านความปลอดภัยและเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งานได้รับความสะดวก ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนําไปเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของบริษัทฯ โดยท่านสามารถตั้งค่า หรือลบการใช้งานคุกกี้ได้ด้วยตนเองจากการตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์(Web Browser)ของท่าน ทั้งนี้เบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่สนับสนุนการใช้งานคุกกี้

9.สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ในฐานะเจ้าของของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้กฎหมายว่าด้วยการ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ตามรายละเอียด ดังนี้

9.1 สิทธิในการถอนความยินยอม
9.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
9.3 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
9.4 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล
9.5 สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
9.6 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
9.7 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
9.8 สิทธิในการยื่นเรื่องร้องเรียน หากบริษัทฯไม่ปฏิบัติตามพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายกําหนด ทั้งนี้ก่อนการร้องเรียนดังกล่าว บริษัทฯขอให้ท่านโปรดติดต่อมายังบริษัทฯ เพื่อให้บริษัทฯมีโอกาสได้รับทราบข้อเท็จจริงและได้ชี้แจงในประเด็นต่างๆรวมถึงจัดการแก้ไขข้อกังวลของท่านก่อนในโอกาสแรก

ทั้งนี้ หากประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิข้อ 9.1-9.7 สามารถติดต่อมายังบริษัทฯ เมื่อบริษัทฯได้รับและตรวจสอบคําร้องขอใช้สิทธิดังกล่าวแล้ว บริษัทฯจะรีบดําเนินการตามคําร้องขอภายในระยะเวลา 45 วันนับแต่วันที่ บริษัทฯได้รับข้อมูลการขอใช้สิทธิ การขอใช้สิทธิอาจถูกจํากัดภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจําเป็นที่บริษัทฯอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดําเนินการตามคําขอใช้สิทธิข้างต้นได้ บริษัทฯจะแจ้งเหตุผลให้ทราบ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคําสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น

10.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯมีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจํากัดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้สามารถเข้าถึงได้โดยพนักงานเฉพาะรายหรือบุคคลที่มีอํานาจหน้าที่ หรือได้รับมอบหมายที่มีความจําเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าว ตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้วเท่านั้น ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯอย่างเคร่งครัด ตลอดจนมีหน้าที่รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเองรับรู้จากการปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้เมื่อบริษัทฯมีการส่ง โอนหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม ไม่ว่าเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา หรือข้อตกลงในรูปแบบอื่น บริษัทฯจะกําหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความลับที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กฎหมายกําหนด เพื่อยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯเก็บรวบรวมจะมีความมั่นคง ปลอดภัยอยู่เสมอ ทั้งนี้บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบความเสียหายใดๆ อันเกิดจากการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลต่อบุคคลที่สามโดยการกระทําของเจ้าของข้อมูลเอง หรือบุคคลอื่นซึ่งได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล

11.การปรับปรุงแก้ไขนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯอาจพิจารณาปรับปรุง แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราวตามที่ เห็นสมควร และจะทําการแจ้งประกาศนโยบายฉบับปัจจุบันให้ท่านทราบผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ

12.ช่องทางการติดต่อ

กรณีมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายฉบับนี้ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ตามช่องทางต่อไปนี้

  • แสงชัย กรุ๊ป เลขที่ 88 ถ.บรมราชชนนี แขวง ฉิมพลี เขต ตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170
  • โทรศัพท์ 02-446-5656
  • sangchaigroup.com

13.การบังคับใช้

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ แสงชัย กรุ๊ป ฉบับนี้ มีผลบังคับใช้ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป

หนังสือชี้แจงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของ แสงชัย กรุ๊ป

แสงชัย กรุ๊ป มีนโยบายให้ความสำคัญกับข้อมูลส่วนบุคคลและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล โดยบริษัทฯ ขอแจ้งให้ท่านทราบว่า บริษัทฯได้มีการเก็บ รวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมเรียกว่า “การประมวลผล” ตามที่ท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลไว้กับบริษัทฯนั้น บริษัทฯจะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นไปอย่างถูกต้องและสอดคล้องตามที่กฎหมายกำหนด  หากท่านไม่ประสงค์ให้บริษัทฯ ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในส่วนที่บริษัทฯ จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากท่านตามกฎหมาย ท่านสามารถขอยกเลิกความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้

ดังนั้น เพื่อชี้แจงและสร้างความเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและสิทธิของท่านตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทฯ ได้จัดทำนโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งท่านสามารถ อ่านและทำความเข้าใจได้ใน “นโยบายการคุ้มครองข้อมูลล่วนบุคคลของ SkilThailand”  หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบาย ท่านสามารถติดต่อได้ที่ 02-446-4646